เสือใต้  บาเยิร์น มิวนิค เข้ารอบ8 ทีมเป็นที่เรียบร้อย หลังนัดที่2 ยิงอย่างโหด ไล่ถล่ม เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์กซะยับเยิน  นับเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างมากของ ทีมบาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน หลังจากที่พวกเขาเปิดรัง อัลลิอันซ์ อารีน่า ไล่ถล่ม เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก คู่แข่งจากลีกออสเตรียไป 7-1 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่2 เมื่อวันอังคารที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา

จากผลการแข่งขันที่ออกมานั้นทำให้ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศจากการชนะด้วยผลประตูรวม 2 นัด 8-2 แล้วนั้น มันยังถือเป็นครั้งที่ 7 เข้าไปแล้วที่ทีม บาเยิร์น มิวนิค สามารถยิงประตูถล่มคู่แข่งได้อย่างน้อย 7 ลูกภายในเกมเดียวในเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก (ไม่นับรวมสมัยใช้ชื่อ ยูโรเปี้ยน คัพ)

โดยทีม บาเยิร์น ถือเป็นทีมที่ยิงใส่คู่ต่อสู้ได้อย่างต่ำ 7 ลูกต่อ1 นัด บ่อยที่สุดในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก มากกว่าบรรดาทีมที่ใกล้กับพวกเขามากที่สุดเกิน 2 เท่าด้วยซ้ำไป ซึ่งวันนี้เราจะมาย้อนดูกันว่า 6 ครั้งก่อนหน้านี้ นั้นทีมดังจากแคว้นบาวาเรียทำอย่างนั้นได้มันเคยเกิดขึ้นกับทีมไหนบ้าง

1.   vs สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในปี 2008-09

ในปี 2008-09 ทีม บาเยิร์น ภายใต้การคุมทีมของ กุนซือ เยอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ในขณะนั้น ทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ดีด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่ม F และพอถึงเวลาจับสลากแล้วนั้นพวกเขาก็ไปชนกับ ทีมสปอร์ติ้งจากโปรตุเกส

แค่นัดแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีม”เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค  ก็บุกไปชนะ สปอร์ติ้ง ถึงบ้านของอีกฝ่าย 5-0 จนทำให้เกมมันน่าจะจบลงตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่พอกลับมาเล่นนัดที่2 ที่นครมิวนิค   ทีม บาเยิร์น ก็ยังจัดแบบเต็มสูบจนยิงซะจนประตูพรุนและชนะไปอีก 7-1 แบ่งเป็น ลูคัส โพดอลสกี้ ที่ทำ 2 ลูก, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มาร์ค ฟาน บอมเบล, มิโรสลาฟ โคลเซ่ และ โธมัส มุลเลอร์ ที่ทำคนละ 1 ประตู กับการทำเข้าประตูตัวเองของ อันแดร์สัน โพลต้า อีก 1 ลูก ทำให้สกอร์รวม 2 นัด บาเยิร์น ชนะแบบท่วมท้น 12-1  แต่สุดท้าย บาเยิร์น มิวนิค  ก็ไปตกรอบก่อนรองชนะเลิศด้วยฝีมือของ ทีมบาร์เซโลนา ในเวลาต่อมา

2.  vs บาเซิ่ล ในปี 2011-12

ในปี 2011-12ในการเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรกนั้น เกิดเรื่องสุดช็อกขึ้นเมื่อ ทีมแกร่งอย่างเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ออกไปพ่ายอย่าง ทีมบาเซิ่ล 0-1 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตอนนั้นหลายคนก็คาดกันว่า บาเยิร์น จะเจอกับความกดดันอย่างหนัก แต่พอเล่นในนัดที่2 จะได้กลับไปเล่นที่บ้านของตัวเองก็ตาม   แต่การได้ประตูอย่างขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 11 จาก อาร์เยน ร็อบเบน มันก็ทำให้ บาเยิร์น เล่นได้ง่ายขึ้นเยอะ ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะล้างแค้นแบบทบต้นทบดอกด้วยการเอาชนะ บาเซิ่ลถึง 7-0 โดยเกมนั้น ร็อบเบน ทำได้ 2 ประตู แต่คนที่หล่อที่สุดคือ มาริโอ โกเมซ เพราะเขาทำไปถึง 4 ลูก ขณะที่อีก 1 ประตูเป็นผลงานของ มุลเลอร์

สุดท้ายแล้วซีซั่นนั้นทีม บาเยิร์น ก็ไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาล นั้นได้ แต่ก็ต้องมาแพ้ ทีม อย่างสิงห์บลูส์ เชลซี ทีมจากเกาะอังกฤษ ในช่วงดวลจุดโทษ

3.  – vs อาแอส โรม่า ในปี 2014-15

ในปี 2014-15โดย 2 นัดแรกกับการแข่งรอบแบ่งกลุ่มของกลุ่ม D นั้น เกมรุกของ ทีมบาเยิร์น มิวนิค ยังไม่เข้าที่เข้าทางซักเท่าไหร่ พวกเขาต้องรอจนถึงช่วงท้ายเกมกว่าที่จะเปิดบ้านชนะทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ 1-0 และในนัดต่อมาก็ชนะทีม ซีเอสเคเอ มอสโก แบบหวุดหวิดจบด้วยสกอร์เดียวกันอีก 1-0

แต่ ในการเล่นนัดที่ สาม ที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก พลพรรคทีม เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ก็ปล่อยของอย่างโหดกันเต็มที่จนถึงขนาดบุกไปยำ โรม่า ถึงบ้านของอีกฝ่าย 7-1 จากการทำประตูของ 6 คน แบ่งเป็น 2 ลูกของ ร็อบเบน กับอีกคนละ 1 ประตูจาก มาริโอ เกิทเซ่, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ และ เซร์ดาน ชากิรี่

4. – vs ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค  ในปี 2014-15

ในปี 2014-15 หลังจากเป็นได้แชมป์ของกลุ่ม D แล้วนั้น ทีมบาเยิร์น ก็ต้องโคจรมาเจอกับทีม ชัคตาร์ทีมดังจากยูเครน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งนัดแรกทีมดังจากยูเครนทำผลงานได้โดดเด่นพอตัวจนทำให้สกอร์จบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ที่บ้านของพวกเขาเองได้

แต่พอถึงนัดที่2  อัลลิอันซ์ อารีน่า บาเยิร์น ก็ถลุงอีกฝ่ายไปแบบยับ 7-0 ซึ่งส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะพวกเขาได้ประตูตั้งแต่นาทีที่ 4 จาก มุลเลอร์ ด้วย โดยเกมนี้ มุลเลอร์ ทำคนเดียว 2 ประตู ส่วนที่เหลือ 5 ลูกมาจาก เยโรม บัวเต็ง, ริเบรี่, โฮลเกอร์ บาสตูเบอร์, เลวานดอฟสกี้ และ เกิทเซ่ แต่สุดท้ายฤดูกาลนั้น ทีม บาเยิร์น ก็ไปถึงเพียงแค่รอบรองชนะเลิศ

5. – vs สเปอร์ส ในปี 2019-20

ในปี 2019-20 ทันทีที่ผลจับสลากของกลุ่ม B ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น หลายคนก็คาดกันว่า ทีม ไก่เดือยทอง สเปอร์ส จะเป็นทีมที่สร้างปัญหาให้กับ เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ได้มากที่สุด เพราะเพื่อนร่วมทีมอีก 2 รายได้แก่ โอลิมเปียกอส กับ เร้ด สตาร์ เบลเกรด ซึ่งมีขุมกำลังไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก

แต่ทั้ง 2 ทีมดังต้องโคจรมาเจอกันในนัดที่2ของรอบแบ่งกลุ่ม โดยเป็นเกมที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม แต่ถึงแม้จะมาเล่นนอกบ้าน ทีม บาเยิร์น มิวนิค ก็แผลงฤทธิ์ ให้เห็นว่าพวกเขามีคุณภาพเหนือกว่าด้วยการชนะไปแบบขาดลอย 7-2 ซึ่งพระเอกในเกมนั้นคือ แซร์จ นาบรี้ ที่ทำไป 4 ลูก ส่วนที่เหลือแบ่งเป็น เลวานดอฟสกี้ 2 ประตู กับ โยชัว คิมมิช 1 ลูก

6. – vs บาร์เซโลน่า ในปี 2019-20

ในปี 2019-20 ด้วยความที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกมรอบก่อนรองชนะเลิศระหว่างทีม บาเยิร์น กับ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลนั้นต้องเตะกันแบบนัดเดียวจบซึ่งปกติจะเตะแบบ 2นัด ซึ่งมันทำให้หลายคนเสียดายไม่น้อย

ซึ่งตอนแรกแทบทุกคนคิดว่านี่จะเป็นเกมที่สูสีกันมากเมื่อเทียบกับชื่อชั้นและขุมกำลังของทั้ง สอง ทีม แต่กลับกลายเป็นว่า บาเยิร์น เล่นได้ดีมากแผลงฤทธิ์จนชนะไปถึง 8-2 ส่งผลให้นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ 1946 ที่ทีมระดับ บาร์เซโลน่า เสียอย่างน้อยถึง 8 ประตูใน 1 เกม ขณะที่หลังจากนั้น บาเยิร์น ก็สานต่อฟอร์มอันยอดเยี่ยมจนสามารถคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้ในที่สุด